วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

วิจารณ์หนัง Snowden

เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน (Edward Snowden) กลายเป็นบุคคลที่คนทั่วโลกรู้จักเพียงชั่วข้ามคืน หลังจากที่เขาออกมาเปิดโปงเรื่องราวของสำนักงานมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ NSA ที่ดูเหมือนว่ากำลังละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองสหรัฐฯ อย่างน่าหวั่นใจ การลุกจากเก้าอี้เพื่อออกมาแฉในครั้งนี้ แน่นอนว่าทันทีที่ข้อมูลเปิดเผย สโนว์เดนต้องยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเมื่อ โอลิเวอร์ สโตน (Oliver Stone) ผู้กำกับสามรางวัลออสการ์ ได้นำเรื่องราวของผู้ชายคนนี้มานำเสนอ สำหรับผมแล้วคงไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะต้องพลาดชมภาพยนตร์เรื่องนี้

Snowden อัจฉริยะจารกรรมเขย่ามหาอำนาจ ว่าด้วยเรื่องราวชีวิตของหนุ่มอัจฉริยะวัย 29 ปี ที่หาญกล้าสั่นประสาทมหาอำนาจของโลกอย่างสหรัฐอเมริกาจนทำให้เขาถูกตามล่าตัวเพื่อมารับผิดที่นำความลับของโครงการใหญ่ของสำนักงานมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ (NSA) ออกมาเผยแพร่ให้ทั่วโลกประจักษ์ ถึงการคุกคามสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนที่รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้เทคโนโลยีเข้าไปสอดแนมชีวิตของประชาชนทุกคน อีกหนึ่งการชิงไหวชิงพริบในโลกที่ข้อมูลข่าวสารคือสิ่งสำคัญที่สุด
 ภาพยนตร์เดินเรื่องในช่วงเวลา 5 วัน ก่อนที่สโนว์เดนจะเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดให้กับนักข่าวและนักทำสารคดี เพื่อเปิดโปงเรื่องนี้ให้กับทุกคนได้ทราบ ระหว่างนั้นภาพยนตร์จะแฟลชแบ็คเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นที่เขาได้รับใช้ชาติ เรื่องราวความรักระหว่างเขากับแฟนสาว และการเริ่มงานในหน่วย CIA วันแรกจวบจนวันทำงานวันสุดท้ายที่เขาเดินออกมา ภาพยนตร์ไม่ได้ทำให้เห็นจุดพีคที่ชัดเจน แต่เหมือนกราฟที่ทรงตัวอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งในจุด ๆ หนึ่งแล้วอาจทำให้เกิดความเนือยและรู้สึกเบื่อได้ไม่ยากนัก แต่ในทุกรายละเอียดนั้นก็ได้บ่งบอกถึงเหตุการณ์ในชีวิตของสโนว์เดน

ตัวละครสำคัญที่ปรากฏในเรื่องนั้นมีไม่มากนัก ไม่ทำให้เกิดความสับสนในการจดจำชื่อ และสิ่งที่อาจจะเข้าใจยากก็คงเป็นในเรื่องของศัพท์เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับทางเทคนิคที่อาจจะทำให้เกิดความสับสนอยู่เล็กน้อย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการที่นักแสดงนำของเรื่องอย่าง โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ (Joseph Gordon-Levitt) พยายามเปลี่ยนบุคลิกตัวเองให้เหมือนสโนว์เดนตัวจริงมากที่สุด ประกอบกับรูปลักษณ์ภายนอกที่มีความคล้ายคลึงตัวจริงมากทีเดียว ขณะที่ ไชลีน วูดลีย์ (Shailene Woodley) รับบทเป็นแฟนสาวของสโนว์เดนอย่าง ลินด์เซย์ มิลล์ส (Lindsay Mills) เธอพยายามดึงความเป็นมิลล์สตัวจริงออกมาให้ได้มากที่สุดเช่นกัน และด้วยการทำการบ้านอย่างหนักของนักแสดงทั้งคู่ก็ทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นสโนว์เดนและมิลล์สจริง ๆ

หากใครคาดหวังจะได้เห็นฉากบู๊หรือฉากไล่ล่าที่น่าตื่นตาตื่นใจอาจจะต้องแสดงความเสียใจไว้ล่วงหน้า เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้เน้นไปที่การเล่าเรื่องที่มาที่ไปของสโนว์เดนเป็นหลัก และเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเขากับแฟนสาว ซึ่งผู้ชมจะได้เห็นสโนว์เดนในหน้าที่การทำงานว่าเขาต้องทำงานแบบไหนลักษณะใด และความสัมพันธ์ของแฟนสาวที่ค่อย ๆ พัฒนาขึ้น กระทั่งเปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง ทั้งหมดนี้จะแสดงออกถึงลักษณะนิสัยใจคอ รวมไปถึงแนวความคิดทางการเมืองที่แสดงตัวตนของสโนว์เดนได้อย่างชัดเจนที่สุด และปิดท้ายกับการปรากฏตัวของสโนว์เดนตัวจริงที่จะได้พูดในสิ่งที่เขาอยากจะสื่อสาร

 เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2013 และในขณะนี้สโนว์เดนกำลังมีชีวิตอยู่และกำลังเดินเรื่องขอลี้ภัยทางการเมือง แน่นอนว่าหากใครที่ติดตามข่าวต่างประเทศก็คงรู้จักผู้ชายคนนี้ดี และทราบที่มาที่ไปเสมือนหนึ่งทราบตอนจบของภาพยนตร์แล้ว แต่ระหว่างทางก่อนที่เขาจะต้องใช้ชีวิตที่ไม่สุขสบายเหมือนเดิม กลายเป็นคนที่ทางการต้องการตัวมากที่สุดคนหนึ่ง เกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่ถูกคนทั้งโลกตั้งคำถามว่าเขาเป็นผู้รักชาติหรือผู้ทรยศชาติ การเล่าเรื่องที่ละเมียดละไม และได้รับการแก้ไขบทบางส่วนจากสโนว์เดนตัวจริงด้วยแล้ว Snowden อัจฉริยะจารกรรมเขย่ามหาอำนาจ น่าจะทำให้ทุกคนที่ชมได้รู้จักกับผู้ชายคนนี้มากขึ้น

 

 

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น